Skip to main content

คงไม่มีใครปฏิเสธกระมังว่าเราทุกคนล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์กับความว้าเหว่ซึ่งเราไม่อาจหลีกเลี่ยงมันได้   ความว้าเหว่คือความรู้สึกอ้างว้างเปลี่ยวใจ  แม้จะมีคนมากมายอยู่รอบข้างก็ยังรู้สึกว้าเหว่ได้  และความว้าเหว่เป็น ความรู้สึกหลังจากเจอกระบวนการโศกเศร้า  ถ้าไม่รีบจัดการก็จะเข้าสู่ความซึมเศร้าซึ่งเป็นความรู้สึกเศร้าหมอง  ว้าเหว่   หรือสิ้นหวัง  เป็นต้น

เอลิซาเบ็ธ  เอลเลียต  นักเขียนคริสเตียนที่มีชื่อเสียงเป็นผู้หนึ่งที่มีประสบการณ์กับความว้าเหว่เธอกล่าวว่า  “ ความว้าเหว่เป็นเงื่อนไขหนึ่งในการเป็นมนุษย์ของเรา ”  หมายความว่า  การเป็นมนุษย์คือการที่จะรู้สึกว้าเหว่  มันเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลบเลี่ยงได้  ในปี ค.ศ. 1950  จิม  เอลเลียต  สามีของเธอพร้อมกับเพื่อนมิชชันนารีอีก 4 คน  ได้ถูกสังหารหมู่ขณะพยายามทำการติดต่อกับชนเผ่าหนึ่งในประเทศเอกวาดอร์  หลังจากนั้นเธอแต่งงานใหม่โรคมะเร็งก็มารุมเร้าให้สามีคนที่ 2 ของเธอต้องเสียชีวิตอีก  ถึงกระนั้นเหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้ไม่อาจเปลี่ยนแปลงจิตวิญญาณของเธอให้สั่นคลอนต่อการสัมพันธ์สนิทกับพระเจ้าได้  เธอจึงสามารถเขียนหนังสือชื่อว่า  “ ทางเดินแห่งความว้าเหว่ที่ได้อยู่กับฉัน ”  หนุนใจผู้คนมากมาย  เอาละไหนๆ เราคงหนีความว้าเหว่ไม่พ้น  ฉะนั้นเรามาเรียนรู้ยุทธวิธีจัดการกับความว้าเหว่ในทัศนะของ อศจ. เรย์  และแคธี่  จิอันทา  กันเลยค่ะ

1.    ยอมจำนนกับพระเจ้าว่าเราว้าเหว่  การยอมจำนน  หมายถึง  การส่งมอบความว้าเหว่ต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ไม่มีวันละทิ้งเราโดยการอธิษฐาน  ทั้งนี้เราต้องเลิกมองหาที่ลี้ภัยอื่นๆ เช่น  แช็ตไลน์หาใครสักคน  ปิดโทรศัพท์  ปิดโทรทัศน์  และปิดวิทยุ  อยู่กับพระเจ้าตามลำพัง 

2.    แสวงหาพระเจ้า  ว่าพระองค์มีพระประสงค์อะไรต่อชีวิตของเรา ?  ให้เราสามารถขอบคุณพระเจ้าได้สำหรับความว้าเหว่  เพราะสิ่งนี้นำมาซึ่งการแสวงหาพระเจ้า  แล้วเราจะค้นพบว่าความว้าเหว่จะไม่อยู่กับเราตลอดไป  เราจะสัมผัสได้ว่าแท้ที่จริงแล้วเราไม่ได้อยู่ตามลำพัง 

3.    ไม่ย่อท้อ  ความอดทนกับความไม่ย่อท้อเป็นสิ่งคู่กันที่เราจะไม่ตกเป็นเหยื่อของความว้าเหว่  แต่การยอมแพ้เป็นอาหารอันโอชะของความว้าเหว่ที่จะทำให้เรามีชีวิตที่ดิ่งลงไปสู่ความตายได้  วิธีที่ดีที่สุดที่จะไม่ยอมแพ้คือการคอยพระเจ้า   การคอยเป็นการไว้วางใจ   เป็นการพักอยู่และชื่นชมกับวิธีการของพระเจ้า   ใช้เวลากับพระองค์และยอมให้พระองค์ทำงานกับเรา  แล้วเราจะเห็นความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าผ่านความว้าเหว่ของเรา

4.  รับใช้คนอื่นที่โศกเศร้า  พูดได้แต่ทำยากมาก  แต่นี่เป็นยุทธวิธีที่จะพิชิตความว้าเหว่  คือการรับใช้คนอื่นแทนที่จะอยู่คนเดียว  การออกไปช่วยเหลือคนอื่นทำให้เรารู้ว่ามีผู้คนอีกมากมายที่มีความทุกข์โศกยิ่งกว่าเรา  เรามีส่วนทนทุกข์กับพระคริสต์มากฉันใด  ความชูใจของเราเนื่องจากพระคริสต์ก็มากฉันนั้น