Skip to main content

เรื่อง แสงสว่างในความมืดมิด

        มีเด็กชายคนหนึ่งชื่อณัฐ เขาเป็นตาบอดตั้งแต่เกิด อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ชีวิตของเขาเต็มไปด้วยความยากลำบาก การเรียนรู้ทุกอย่างโดยอาศัยการสัมผัสและการฟัง เขาถูกเพื่อนล้อเลียนอยู่บ่อยครั้ง แต่เขาไม่เคยยอมแพ้ เขามุ่งมั่นที่จะใช้ชีวิตให้คุ้มค่าที่สุด ณัฐชอบให้คุณยายเล่านิทานให้ฟัง โดยเฉพาะเรื่องราวในพระคัมภีร์ คุณยายจะเล่าให้ฟังถึงพระเยซูที่ทรงรักทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน พระองค์ทรงช่วยเหลือผู้คนให้พ้นจากความทุกข์ยากลำบาก ทำให้ณัฐรู้สึกประทับใจในพระเมตตาของพระเยซูคริสต์ และเชื่อมั่นว่าพระองค์จะไม่ทอดทิ้งเขาแนนอน

        วันหนึ่ง ณัฐได้เข้าร่วมกลุ่มศึกษาพระคัมภีร์สำหรับคนตาบอด เขาได้เรียนรู้วิธีอ่านอักษรเบรลล์ และได้ฟังพระคัมภีร์ในรูปแบบเสียง เขารู้สึกตื้นตันใจทุกครั้งที่ได้ฟังเรื่องราวต่างๆ ในพระคัมภีร์ มันเหมือนกับมีแสงสว่างที่ส่องเข้ามาในชีวิตที่มืดมิดของเขาณัฐฝึกฝนการอ่านอักษรเบรลล์อย่างหนัก เขาสามารถอ่านหนังสือเรียนได้ด้วยตัวเอง และเริ่มเข้าใจโลกใบนี้มากขึ้น ณัฐยังได้เรียนรู้ที่จะเล่นดนตรี และมีพรสวรรค์ทางด้านดนตรีเป็นอย่างมาก เสียงเปียโนของเขาไพเราะจับใจ ทำให้ผู้คนต่างประทับใจในความสามารถของเขา

        เมื่อณัฐโตขึ้นมา เขาได้เข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย และสำเร็จการศึกษาด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ณัฐได้ทำงานเป็นครูสอนดนตรีให้กับเด็กตาบอดคนอื่นๆ และได้แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ของเขาให้กับผู้อื่น โดยชีวิตที่พึ่งพาในพระเจ้า เหมือนพระคำของพระเจ้าที่บอกกับเราว่า “ข้าพเจ้าทำได้ทุกอย่างโดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังให้ข้าพเจ้า”

ข้อคิดที่ได้จากเรื่อง แสงสว่างในความมืดมิด

เรื่องราวของณัฐเป็นแรงบันดาลใจให้เราเห็นว่า แม้เราจะเผชิญกับความยากลำบากเพียงใด แต่เราก็สามารถเอาชนะอุปสรรคและประสบความสำเร็จได้ด้วยความพยายามและความเชื่อมั่นได้